เริ่มนับ 28 ต.ค. 52

สรุปถาม-ตอบจากที่ประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวปฏิบัติฯ ปี 2551

คำถาม
คำตอบ
1.       หากคณะใดมีประกาศค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการอบรม/ประชุม/สัมมนา
ให้ยึดตามประกาศของคณะใช่หรือไม่ในการคิดค่าใช้จ่ายโครงการ (ประกาศดังกล่าวได้เสนอผ่านมหาวิทยาลัย)
1.สามารถใช้ได้  หากประกาศค่าใช้จ่ายฉบับนั้นลงนามออกประกาศโดยมหาวิทยาลัย
2.       การเปลี่ยนแปลงงบประมาณค่าใช้จ่ายถ้าอ่านจากแนวปฏิบัติใหม่แสดงว่าถ้ารายรับเท่าเดิม
แต่ค่าใช้จ่ายไม่ตรงตามประมาณการไว้ ไม่ต้องทำเรื่องเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายใช่หรือไม่
2.ใช่ แต่ในขั้นตอนการเบิกจ่ายจะต้องจัดทำงบประมาณตามที่จ่ายจริงและคิดคำนวณค่าธรรมเนียมบริการตามประกาศ  หากค่าธรรมเนียมบริการไม่ถึง 15 % หรือมากกว่าการจัดสรรค่าธรรมเนียมให้มหาวิทยาลัยและวิทยาเขตยังคงคิดจากค่าธรรมเนียมบริการ 15 % เช่นเดิม
3.       กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบและวิธีปฏิบัติสามารถปรึกษาใครได้บ้าง 3.สามารถปรึกษาผ่าน groupmail : psu-academic@group.psu.ac.thได้ หรือโทรศัพท์ได้ที่ 074-282243-4
4.       หน่วยงานราชการอื่น ๆ ขอให้ดำเนินการจัดอบรมให้บุคลากร  โดยมีโครงการ  มีงบประมาณแล้ว  และให้ส่งเอกสารเบิกค่าใช้จ่ายจากหน่วยงานนั้น ๆ เมื่อส่งเอกสารไปเบิกจะมีข้อจำกัดในเรื่องค่าธรรมเนียมบริการวิชาการ  ตามระเบียบมหาวิทยาลัยว่าด้วยการให้บริการ พ.ศ.2551  ที่หน่วยงานภายนอกไม่สามารถนำใบเสร็จค่าธรรมเนียมฯไปเป็นค่าใช้จ่ายได้ (ผิดต่อระเบียบ) จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร

4.รายละเอียดจากคำถามเสมือนว่าหน่วยงานร้องขอ ให้ดำเนินการจัดอบรม แต่ก่อนการดำเนินงานยังไม่มีข้อตกลงกันเกี่ยวกับค่าบริการที่มหาวิทยาลัยดำเนินการจัดอบรมให้  ดังนั้นการแก้ปัญหาก็คือ เมื่อมีหน่วยงานภายนอกร้องขอให้มหาวิทยาลัยดำเนินการจัดอบรมหรือร้องขอให้ดำเนินการบริการประเภทใดประเภทหนึ่งโดยหน่วยงานที่ร้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ไม่ได้ให้เงินมาเป็นก้อนให้นำหลักฐานไปเบิกจ่ายตามที่จ่ายจริง หรือให้เงินมาเหลือจ่ายต้องคืนทำนองนี้    ดังนั้นก่อนรับงานจะต้องมีข้อตกลงระหว่างกันก่อนว่าในการดำเนินงานครั้งนี้มหาวิทยาลัยจะคิดค่าบริการดำเนินการจำนวน...............บาท (โดยเป็นค่าใช้จ่ายแล้วแต่ลักษณะงาน เช่น ค่าโทรศัพท์ประสานงาน  ค่าปฏิบัติงานนอกเวลาเจ้าหน้าที่  ค่าเช่าสถานที่  อุปกรณ์ฯลฯ)   หากตกลง มหาวิทยาลัย(คณะ/หน่วยงานที่รับงาน) ก็ขออนุมัติดำเนินการกิจกรรมนั้นตามขั้นตอน พร้อมประมาณการค่าใช้จ่ายตามระเบียบฯ

 ยกตัวอย่าง

       รายรับค่าบริการ                                                          3,000  บาท

       ค่าใช้จ่าย                                                                      2,609  บาท

-          ค่าปฏิบัติงานนอกเวลา......

-          ค่า..................

        ค่าธรรมเนียมบริการ   15 %                                        391 บาท

                              รวม                                                          3,000 บาท

 

หากหน่วยงานร้องขอไม่ตกลงมหาวิทยาลัยก็ไม่ควรดำเนินการให้  ด้วยเหตุผลในการประสานงานและดำเนินการมหาวิทยาลัยจะต้องมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าโทรศัพท์    ค่าเวลาของบุคลากร ฯลฯ  ยกเว้นกิจกรรมที่ให้ดำเนินการเป็นกิจกรรมความร่วมมือในการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย  หรือกิจกรรมเฉพาะกิจที่มหาวิทยาลัยพิจารณาเห็นชอบ

 

5.       แนวปฏิบัติการบริหารโครงการบริการวิชาการ มอ 066/ว 247 วันที่ 14 ธค.48 ที่ยกเลิก  สำหรับค่าตอบแทนวิทยากรที่กำหนดไว้ในบันทึกนั้น
(ไม่ใช่ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม  การจัดงานและ
การประชุมระหว่างประเทศ ลงวันที่ 2 ตค
2549 ตาม กค 0409.6/ว 95 ใช่หรือไม่)
5. อัตราค่าตอบแทนวิทยากรตามแนวปฏิบัติตามหนังสือดังกล่าว  เป็นอัตราที่มหาวิทยาลัยกำหนดเอง
6.       ปัจจุบันกลุ่มงานให้บริการวิชาการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ  ซึ่งเงินรายได้จากการวิเคราะห์ เข้าวิทยาเขตทั้งหมด สำหรับผู้วิเคราะห์จะเบิกค่าตอบแทนเป็นค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ  ถ้าจะหัก % รายได้จากการวิเคราะห์ให้ผู้วิเคราะห์เป็นค่าตอบแทนจะต้องทำอย่างไรบ้าง  และสัดส่วนเป็นอย่างไร 6. เบิกค่าตอบแทนไม่ได้ เนื่องจากการปฏิบัติงานนั้นเป็นภาระหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรง
7.       การจ้าง มหาวิทยาลัยในงานบริการวิชาการ  การดำเนินงานครอบคลุมถึงไหน

7. การจ้างในงานบริการวิชาการครอบคลุมตาม TOR /ข้อเสนอโครงการ/ตามสัญญาที่มีการลงนาม

8.       อัตราค่าจ้างคิดอย่างไร 8. คิดตามระเบียบฯ  ว่าด้วยการให้บริการทางวิชาการ พ.ศ.2551
9.       มีรูปแบบการดำเนินการจ้างหรือไม่ อย่างไร

9. คำถามไม่ชัดเจน  แต่การจ้างทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามระเบียบพัสดุ

10.    หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามระเบียบฯ พ.ศ.2551 และแนวปฏิบัติสามารถสอบถามปัญหาได้ที่ไหนและจะได้คำตอบจากทางใด

10.สอบถามผ่าน groupmail : psu-academic@group.psu.ac.th ได้ หรือโทรศัพท์ได้ที่ 074-282243-4

   11. การตั้งค่าตอบแทนที่ปรึกษา (กรณีโครงการเป็นที่ปรึกษาอย่างเดียว) การตั้ง

            ค่าตอบแทนสามารถตั้งได้มากกว่า 70% ตามระเบียบฯ นั้น จำนวนที่มากกว่า

            70% คือสามารถมากกว่าได้เท่าไหร่  ขอบเขตกำหนดไว้หรือไม่ว่ามากกว่า

             70%เป็นเท่าไหร่ ?

               

11.มหาวิทยาลัยไม่กำหนดแต่ให้อยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงาน  แต่ต้องตั้งค่าธรรมเนียมบริการให้เป็นไปตามระเบียบฯ

     12. การเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (VAT) ตามระเบียบฯ ข้อที่ 9.4 นั้น เงินส่วนนี้จะเก็บ

            ไว้ที่ไหน หากไม่ต้องจ่ายหรือเก็บไว้เกิน 20 ปี แล้วจะนำมาจัดสรรอย่างไร   ต่อไป

12.มหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการพิจารณา  ผลพิจารณาเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบผ่านทาง groupmail :psu-academic@group.psu.ac.th

      13. งานบริการวิชาการ 7 ประเภท ตามระเบียบ ข้อ 6  มหาวิทยาลัยต้องเป็น

             คู่สัญญาในกลุ่มใดบ้าง

13.ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่  4  กลุ่มที่ 3 จะมีบ้าง

     14. กรณีค่าดำเนินการเหลือจ่าย โดยไม่มีสำรองจ่าย ข้อ 9.2 สามารถถัวเฉลี่ยใน

                รายการย่อย 9.2.1-9.2.5 ระหว่างหมวดได้หรือไม

14. ได้
     15.กรณีการหักค่าประกันผลงาน มีความขัดแย้งกับระเบียบข้อ 21 หรือไม่? 15. ไม่ขัดแย้งกับข้อ 21 เนื่องจากข้อ 21 ตั้งขึ้นมาเพื่อควบคุมคุณภาพผลงานของมหาวิทยาลัยเองซึ่งมหาวิทยาลัยมอบหมายการควบคุมคุณภาพให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าหน่วยงานบริหารโครงการ  แต่สำหรับหักค่าประกันผลงาน เป็นของผู้ว่าจ้างที่หักไว้เพื่อประกันผลงานที่เขาได้รับว่าตรงกับข้อตกลงตามสัญญาหรือไม

      16. กรณีงานที่ดำเนินการมาก่อน กระทบกับระเบียบใหม่หรือไม่

16.ไม่กระทบ  กิจกรรมใดได้รับอนุมัติให้ดำเนินการตามระเบียบฯ พ.ศ.2536  สามารถดำเนินการตามระเบียบฯนั้นจนสิ้นสุดโครงการ  ซึ่งระเบียบฯใหม่ระบุไว้ชัดเจนใน  ข้อ 23
      17. ในกรณีที่มีการรับเงินในนามของคณะ/หน่วยงานสามารถดำเนินการได้หรือไม่ 17. ได้เช่นค่าลงทะเบียนอบรม สามารถรับเงินและออกใบเสร็จในนามของคณะ/หน่วยงานได้ และนำส่งเงินค่าลงทะเบียนทั้งหมดต่อกองคลัง  ซึ่งกองคลังก็จะออกใบเสร็จรับเงินให้แก่คณะ/หน่วยงานอีกครั้งไว้เป็นหลักฐาน  แต่สำหรับเงินค่าจ้างที่มหาวิทยาลัยเป็นคู่สัญญา   การจ่ายเงินของผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายเงินให้ในนามมหาวิทยาลัยเท่านั้น

    18. ถ้าเงินเข้าในนามของมหาวิทยาลัย ใครจะเป็นผู้ออกใบเสร็จ

18. มหาวิทยาลัยโดยกองคลัง

    19. ถ้าเป็นลักษณะวิเคราะห์ ทดสอบ จะต้องจ่ายเงินที่กองคลังด้วยหรือไม่ ใคร

       เป็นคนออกใบเสร็จ และต้องมีการนำส่งเงินให้กับมหาวิทยาลัยหรือไม่

       อย่างไร

19. การให้บริการตามลักษณะการให้บริการกลุ่มที่ 1  มหาวิทยาลัยให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงาน  ใบเสร็จการรับเงินเป็นของหน่วยงานได้ แต่จะต้องนำส่งเงินให้มหาวิทยาลัยตามระเบียบเงินรายได้

      20. กรณีใดที่จะต้องจ่ายเป็นการจ่ายเงินในนามมหาวิทยาลัยเท่านั้น จะจ่ายใน

      นามคณะฯ ไม่ได้

20. โครงการที่มหาวิทยาลัยเป็นคู่สัญญาทุกโครงการ  สำหรับการจัดอบรม ประชุม  สัมมนา การเก็บเงินค่าลงทะเบียนออกใบเสร็จของหน่วยงานและจัดส่งเงินให้กองคลังเพื่อดำเนินการตามระเบียบฯ
       22. การหักเงินค่าประกันผลงาน หักอย่างไร 22. ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้หักเงินค่าประกันผลงาน  ทั้งนี้จะหักได้ก็ต่อเมื่อระบุไว้ในสัญญาจ้าง
        23. ระเบียบฯ พ.ศ.2551 จะต้องตั้งสำรองจ่ายอีกไหม 23. ระเบียบฯ พ.ศ.2551  การตั้งสำรองจ่ายจะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าโครงการ  ว่าโครงการมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด   
        24.  ระเบียบฯ พ.ศ.2551 คำนวณค่าธรรมเนียมบริการ 15 %  จากอะไร 24. คำนวณค่าธรรมเนียมบริการ 15 %  จากค่าใช้จ่ายตามระเบียบฯข้อ 9.1 และ 9.2
        25. เงินรายได้จากการให้บริการวิชาการส่งเงินเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเงินรับฝากหรือเงินรายได้ 25. เงินรายได้
       26.  การจัดสรรค่าธรรมเนียมบริการให้หน่วยงานที่มีบุคลากรเข้าร่วมเป็นคณะทำงานจัดสรร
ให้จากเงินส่วนใด
26. จัดสรรให้จากอัตราค่าธรรมเนียมบริการที่หน่วยงานบริหารโครงการได้รับ 11 % โดยจัดสรรตามอัตราค่าตอบแทนของคณะทำงาน ของแต่ละหน่วยงานที่เข้าร่วม
       27. ตามที่รองอธิการบดีวิทยาเขตได้รับมอบอำนาจให้สามารถอนุมัติโครงการบริการวิชาการ ตามระเบียบฯ พ.ศ. 2536 ได้ตามคำสั่งมหาวิทยาลัยที่ 2309/2549  เมื่อมีการประกาศใช้ ระเบียบฯ พ.ศ. 2551  คำสั่งมอบอำนาจยังสามารถใช้ได้หรือไม

27. สามารถใช้ได้จนกว่าจะมีคำสั่งมอบอำนาจใหม่(มหาวิทยาลัยมีคำสั่งมอบอำนาจใหม่แล้ว วข.สุราษฏร์ คำสั่งมหาวิทยาลัยที่ 2122/2551 ลว.31 ตค.51  สำหรับวข. ปัตตานี ตรัง  ภูเก็ต คำสั่งมหาวิทยาลัยที่ 2545/2551  ลว.24 ธค.51  แต่คำสั่งนี้ยังมีข้อความผิดอยู่  งานนิติการ กองการเจ้าหน้าที่ได้แก้ไขแล้วตามคำสั่งมหาวิทยาลัยที่ 0049/2552 ลว.12 มค.52)

 

      28. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามระเบียบฯ เป็นเงินที่ต้องเรียกเก็บจากผู้ว่าจ้างด้วยใช่หรือไม่

28. ใช่   แต่ทั้งนี้การจัดเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าหน่วยงาน  ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  ไม่สามารถนำไปถัวเฉลี่ยจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายของโครงการได้